ไฟเลี้ยว คิดเอาไว้ว่าการได้เป็นแฟนกับ บั๊กโจ้ นั้น จะทำให้ความรักของเธอ "โคตรชิล" เหมือนนั่งจิบเบียร์เย็น ๆ ริมทะเลตอนพระอาทิตย์ตกดิน…ไม่เร่งรีบ…ไม่เรียกร้อง…และไม่ผูกมัด
ตามประสาชะนีอินดี้รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ไฟเลี้ยววาดฝันไว้ว่าความรักที่ดี คือความรักที่ต่างฝ่ายต่างเว้นช่องว่างให้แก่กันและกัน ไม่ใกล้จนอึดอัดและไม่ไกลจนห่างเหิน เธอผ่านผู้ชายมาหลายคน ผิดหวังมาซ้ำซาก จนกระทั่งได้มาเจอกับ บั๊กโจ้ คนที่เหมือนจะ "ใช่" สุด ๆ
บั๊กโจ้ เป็นหนุ่มตี๋หน้ามึนแสนอารมณ์ดี เจ้าของร้านเหล้าที่เหมือนเปิดไว้เป็นห้องรับแขกให้เพื่อน ๆ มาสังสรรค์ กะเอาฮาไม่หาผลกำไร เขาไม่เคยคิดจริงจังกับชีวิต เพราะคิดว่าอนาคตเป็นเรื่องอีกยาวไกล และ "เวลา" ก็เป็นทรัพยากรที่ใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมด
ด้วยจังหวะการใช้ชีวิตที่เข้าคู่กันอย่างน่าอัศจรรย์ บั๊กโจ้และไฟเลี้ยวจึงตกลงใจคบหากันแบบหลวม ๆ กลางวันทำงาน กลางคืนสนุกสนานในวงเหล้าเคล้าเพลงร็อค โดยมีสมาชิกในก๊วนคอทองแดงที่พบปะกันทุกคืนไม่มีขาด อันประกอบไปด้วย พี่อุ๊ สาวเปรี้ยวไอดอลของไฟเลี้ยวเจ้าของคติ "ใช้ชีวิตให้มันส์ก่อนตาย จะได้ไม่อายยมบาล", พี่แมน คู่ปรับลับฝีปากกับพี่อุ๊ ผู้เชื่อว่า "ชีวิตวางแผนได้แน่ ขอแค่มึงรอบคอบพอ", พี่โบ้ ศาลพระภูมิของวงเหล้า เกาะติดขวดเหล้ายิ่งกว่าแสตมป์กรมสรรพสามิต ไหนจะมี พี่นุ ทายาทของมหาเศรษฐีพันล้านที่มีอาชีพหลักคือการค้นหาตัวเอง, ไอ้เจ๊ด เพื่อนสมัยมัธยมของไฟเลี้ยว ที่คิดว่าเพราะความหล่อเกินไปของตนเอง ทำให้ต้องผิดหวังในความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า และ ยาย่า เพื่อนสาวแสนสุภาพ ที่ดื่มเหล้าแทนน้ำเปล่า
แต่ทุก ๆ วงเหล้าย่อมต้องเลิกราฉันใด ชีวิตก็คงต้องมีจุดเปลี่ยนฉันนั้น และความรักก็ไม่ต่างกัน เมื่อถึงจุดหนึ่ง กติกาของหัวใจที่ไฟเลี้ยว ตั้งไว้เกิดสั่นคลอน และความเหยาะแหยะของบั๊กโจ้ก็ยิ่งแต่จะทำให้ชีวิตของเขาดิ่งลงเหว
ความรักของทั้งคู่กำลังแล่นมาถึง "ทางตัน" แถมเหล่าแก๊งเพื่อนขั้นเทพที่คอยเป็นที่ปรึกษาด้านหัวใจ ต่างก็แยกย้ายจากกันไปคนละทิศคนละทาง
เขาทั้งสองกำลังจะได้เรียนรู้ว่า โลกที่พวกเขามองเห็นและวาดฝันตอนยังไร้เดียงสานั้น มันช่างแตกต่างกันอย่างลิบลับกับสิ่งที่ต้องเผชิญจริง ๆ
มันเผ็ดร้อนกว่าเหล้ายี่ห้อใด ๆ ในโลก และเจ็บปวดกว่าเพลงรักทุกเพลงรวมกันจะยุติ "คําว่าเรา" หรือจะเลือก "เมากับคำว่ารัก" มีแต่ไฟเลี้ยวและบั๊กโจ้เท่านั้นที่จะเป็นผู้เลือก และการตัดสินใจครั้งนี้ ไม่มีโซดา ไม่มีโทนิค ไม่มีมิกเซอร์ มีแค่ "รักหมดแก้ว"